ค่าคอมมิชชั่น FxPro Thailand

โครงสร้างค่าคอมมิชชั่น FxPro สำหรับนักเทรดไทย

บริษัทของเราใช้โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสและแข่งขันได้ในตลาดไทย ค่าคอมมิชชั่น FxPro ถูกกำหนดตามประเภทบัญชีและเครื่องมือการเทรดที่คุณเลือกใช้ เรามีระบบคำนวณค่าธรรมเนียมแบบแบ่งชั้นที่ช่วยลดต้นทุนสำหรับนักเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง

ระบบค่าธรรมเนียมของเราแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก คือ สเปรด คอมมิชชั่นต่อรอบการเทรด และค่าธรรมเนียมการดำเนินการบัญชี สำหรับนักเทรดในประเทศไทย เราได้ปรับโครงสร้างให้เหมาะสมกับสภาพตลาดท้องถิ่น

ค่าสเปรดและการคำนวณต้นทุน

ค่าสเปรดเป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของเครื่องมือการเทรด เราใช้ระบบสเปรดแบบแปรผันที่ปรับตัวตามสภาพคล่องของตลาด สเปรดขั้นต่ำสำหรับคู่สกุลเงินหลักเริ่มต้นที่ 0.1 pips ในบัญชี Raw Spread

การคำนวณต้นทุนรวมต้องพิจารณาทั้งสเปรดและคอมมิชชั่น สำหรับบัญชี Standard ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมอยู่ในสเปรด ขณะที่บัญชี Raw Spread จะมีสเปรดต่ำแต่เสียคอมมิชชั่นแยกต่างหาก

โครงสร้างคอมมิชชั่นตามปริมาณการเทรด

เรามีระบบลดหย่อนค่าคอมมิชชั่นสำหรับนักเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง โปรแกรม Volume Discount ของเราให้ส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับการเทรดที่เกิน 50 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ระบบนี้คำนวณอัตโนมัติและปรับใช้ในเดือนถัดไป

นักเทรดสามารถติดตามปริมาณการเทรดและอัตราส่วนลดผ่าน FxPro Direct Dashboard การคำนวณใช้ข้อมูลการเทรดย้อนหลัง 30 วัน และอัปเดตทุกวันทำการ

ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

บริษัทของเราเสนอบัญชีการเทรดสามประเภทหลักสำหรับนักเทรดในประเทศไทย แต่ละประเภทมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยสเปรดรวมค่าธรรมเนียมทั้งหมด บัญชี Raw Spread ออกแบบสำหรับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำสุด

บัญชี Professional มีข้อกำหนดพิเศษสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และเงินทุนสูง เรากำหนดเกณฑ์คุณสมบัติตามกฎระเบียบของ CySEC และ FCA ผู้สมัครต้องผ่านการประเมินความรู้และประสบการณ์การเทรด

• บัญชี Standard: สเปรดเริ่มต้น 1.8 pips, ไม่มีคอมมิชชั่น
• บัญชี Raw Spread: สเปรดเริ่มต้น 0.1 pips, คอมมิชชั่น $3.5 ต่อล็อต
• บัญชี Professional: สเปรดเริ่มต้น 0.8 pips, คอมมิชชั่น $2.0 ต่อล็อต

ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน

เราไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงินผ่านช่องทางส่วนใหญ่ในประเทศไทย การโอนเงินผ่านธนาคารท้องถิ่น บัตรเครดิต/เดบิต และ e-wallet ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การฝากผ่าน cryptocurrency มีค่าธรรมเนียมเครือข่าย (network fee) ตามอัตราตลาด

การถอนเงินฟรีสำหรับรายการแรกในแต่ละเดือน การถอนครั้งที่สองเป็นต้นไปมีค่าธรรมเนียม $10 ต่อรายการ ระยะเวลาการประมวลผลการถอนใช้เวลา 1-3 วันทำการสำหรับโอนธนาคาร และ 24 ชั่วโมงสำหรับ e-wallet

เครื่องมือการเทรดและค่าคอมมิชชั่นเฉพาะ

แต่ละเครื่องมือการเทรดมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามลักษณะของตลาด คู่สกุลเงิน Forex มีสเปรดต่ำสุดเนื่องจากสภาพคล่องสูง ดัชนีหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์มีสเปรดกว้างกว่าเล็กน้อยเพื่อสะท้อนความผันผวนของตลาด

การเทรด CFD บนหุ้นรายตัวมีคอมมิชชั่นแยกต่างหาก เราเรียกเก็บ 0.10% ของมูลค่าการเทรดสำหรับหุ้นสหรัฐฯ และ 0.08% สำหรับหุ้นยุโรป คอมมิชชั่นขั้นต่ำ $5 ต่อรายการสำหรับหุ้นทุกประเภท

• Forex: สเปรดเริ่มต้น 0.1 pips (Raw Spread)
• ดัชนี: สเปรดเริ่มต้น 0.4 points
• สินค้าโภคภัณฑ์: สเปรดเริ่มต้น 0.03 (ทอง)
• หุ้น CFD: คอมมิชชั่น 0.08-0.10%
• Cryptocurrency: สเปรดเริ่มต้น 0.05%

ค่าธรรมเนียม Swap และการคำนวณ

ค่า Swap เป็นดอกเบี้ยที่เรียกเก็บหรือจ่ายสำหรับการถือครองตำแหน่งข้ามคืน อัตรานี้คำนวณจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน เราอัปเดตอัตรา Swap ทุกวันตามสภาวะตลาดเงิน

การคำนวณ Swap ใช้สูตร: (ขนาดตำแหน่ง × อัตรา Swap × จำนวนวัน) / 10 สำหรับคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ วันพุธจะมีการเรียกเก็บ Swap สามเท่าเพื่อชดเชยวันหยุดสุดสัปดาห์

วิธีการลดค่าคอมมิชชั่นและเพิ่มประสิทธิภาพ

นักเทรดสามารถลดต้นทุนการเทรดผ่านหลายวิธี การเลือกบัญชี Raw Spread เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดปริมาณสูงเนื่องจากสเปรดต่ำกว่า การใช้ EA (Expert Advisor) ช่วยลดต้นทุนทางอารมณ์และเพิ่มความแม่นยำในการเข้าออกตลาด

โปรแกรม VPS ฟรีของเราช่วยลดปัญหา slippage และ requote ที่อาจเพิ่มต้นทุนการเทรด เซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ใน Equinix LD4 London และ NY4 New York เพื่อความเร็วในการเชื่อมต่อ

การจัดการเวลาการเทรดก็สำคัญเช่นกัน ช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง (London-New York overlap) จะมีสเปรดแคบกว่า การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วง news release ช่วยลดความเสี่ยงจาก spread widening

• ใช้บัญชี Raw Spread สำหรับการเทรดปริมาณสูง
• เลือกเวลาเทรดในช่วงสภาพคล่องสูง
• ใช้ VPS เพื่อลด latency และ slippage
• ติดตามโปรแกรม Volume Discount
• หลีกเลี่ยงการเทรดระหว่างประกาศข่าวสำคัญ

การใช้ FxPro Direct Dashboard เพื่อติดตามค่าใช้จ่าย

แดชบอร์ดของเรามีเครื่องมือวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายแบบละเอียด นักเทรดสามารถดูรายงานค่าคอมมิชชั่นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ระบบแสดงการแบ่งประเภทตามเครื่องมือการเทรดและประเภทค่าธรรมเนียม

ฟีเจอร์ Cost Calculator ช่วยประมาณการค่าใช้จ่ายก่อนเปิดตำแหน่ง เครื่องมือนี้คำนวณทั้งสเปรด คอมมิชชั่น และ swap ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น การวางแผนการเทรดด้วยข้อมูลนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเงินทุน

การเปรียบเทียบค่าคอมมิชชั่นในตลาดไทย

ค่าคอมมิชชั่น FxPro อยู่ในระดับแข่งขันได้เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นในตลาดไทย สเปรดเฉลี่ยของเราสำหรับ EUR/USD อยู่ที่ 0.1-1.8 pips ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี ขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่มีสเปรดในช่วง 0.2-2.5 pips

ข้อได้เปรียบของเราคือความโปร่งใสในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เราไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ระบบ real-time reporting ช่วยให้นักเทรดติดตามต้นทุนได้อย่างแม่นยำ

โครงสร้างค่าธรรมเนียมแบบไล่ระดับของเราให้ประโยชน์กับนักเทรดทุกระดับ ผู้เริ่มต้นได้รับความเรียบง่ายจากบัญชี Standard ขณะที่มืออาชีพได้รับต้นทุนที่ต่ำจากบัญชี Raw Spread

ข้อดีของระบบค่าธรรมเนียมแบบโปร่งใส

ความโปร่งใสในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสร้างความไว้วางใจระหว่างเราและลูกค้า เราเผยแพร่อัตราสเปรดแบบ real-time ผ่าน website และแพลตฟอร์มการเทรด ไม่มีการปรับเปลี่ยนราคาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ระบบ audit trail ของเราบันทึกทุกรายการเทรดพร้อมรายละเอียดค่าธรรมเนียม นักเทรดสามารถ export ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์หรือการทำบัญชี การรายงานนี้ช่วยในการวางแผนภาษีและการจัดการเงินทุน

เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่าย

เราลงทุนในเทคโนโลยี trading infrastructure ที่ทันสมัยเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ระบบ STP (Straight Through Processing) ของเราเชื่อมต่อโดยตรงกับ liquidity provider ชั้นนำ ลดขั้นตอนการประมวลผลและค่าใช้จ่ายที่ส่งผ่านไปยังลูกค้า

เซิร์ฟเวอร์การเทรดใช้ระบบ colocation ใน data center ระดับ Tier 1 ความเร็วในการประมวลผลคำสั่งเฉลี่ย 13 milliseconds ช่วยลด slippage และปรับปรุงการ fill ราคา เทคโนโลยี ECN (Electronic Communication Network) รวบรวมราคาจากหลายแหล่งเพื่อให้ราคาที่ดีที่สุด

ระบบ risk management แบบ real-time ช่วยควบคุมความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพของราคา การใช้ machine learning ในการวิเคราะห์ market microstructure ช่วยปรับปรุงการกำหนดราคาและลดต้นทุนการดำเนินงาน

• ระบบ STP เชื่อมต่อ liquidity provider โดยตรง
• Colocation servers ใน Tier 1 data centers
• เวลาประมวลผลเฉลี่ย 13 milliseconds
• ECN aggregation จากหลายแหล่งสภาพคล่อง
• AI-powered risk management systems

การปรับปรุงระบบเพื่อลดต้นทุน

เราพัฒนาระบบการเทรดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน การอัปเกรด infrastructure ล่าสุดใช้ FPGA (Field-Programmable Gate Array) สำหรับการประมวลผลความเร็วสูง ระบบใหม่ลดเวลา latency ลง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

โครงการ Smart Order Routing ใช้ algorithm ในการเลือกเส้นทางการส่งคำสั่งที่เหมาะสมที่สุด ระบบวิเคราะห์ราคา สภาพคล่อง และความเร็วของแต่ละ liquidity provider แบบ real-time การปรับปรุงนี้ช่วยลดต้นท