FxPro Leverage: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์ไทย

มากกว่า 2,100 เครื่องมือ

ฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนี และอื่น ๆ อีกมากมาย

กฎระเบียบ

ได้รับการควบคุมโดย FCA, CySEC, FSCA และ SCB

การปกป้องยอดคงเหลือ

การป้องกันยอดคงเหลือติดลบสำหรับลูกค้าทุกคน

การดำเนินการคำสั่งอย่างรวดเร็ว

ทันที โดยไม่มีการแทรกแซงจากตัวกลาง

🔑 ประเด็นสำคัญ

  • การตั้งค่า FxPro Leverage ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเทรดและควบคุมความเสี่ยง
  • การจัดการความเสี่ยงและการเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมสำคัญต่อความสำเร็จ
  • แพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ cTrader มีเครื่องมือสนับสนุนการใช้งานเลเวอเรจ

FxPro Leverage คืออะไร: ทำความเข้าใจพื้นฐาน

FxPro Leverage เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลังซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเปิดโพซิชั่นที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนจริงได้ ที่ FxPro เราให้บริการเลเวอเรจที่ยืดหยุ่นสำหรับนักเทรดในประเทศไทย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Leverage FxPro และการเลือกใช้อย่างเหมาะสมคือหัวใจสำคัญในการเพิ่มศักยภาพการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

FxPro ใช้รูปแบบเลเวอเรจแบบไดนามิก ซึ่งหมายความว่า FxPro Maximum Leverage สำหรับลูกค้ารายย่อยมาตรฐานสำหรับคู่สกุลเงินหลักคือ 1:200 และจะปรับลดลงโดยอัตโนมัติเมื่อปริมาณการเทรดสูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง เมื่อคุณเลือกเลเวอเรจ 1:100 หมายความว่าคุณสามารถควบคุมโพซิชั่นมูลค่า 100,000 บาทด้วยเงินมาร์จิ้นเพียง 1,000 บาท

การตั้งค่าเลเวอเรจสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามประเภทบัญชีและเครื่องมือการเทรด ซึ่ง FxPro Account Types Leverage อาจแตกต่างกันไป เช่น คู่สกุลเงิน (Forex) อาจมีเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:200 ขณะที่ดัชนี (Indices) อาจจำกัดที่ 1:200 เพื่อให้สอดคล้องกับความผันผวนของตลาด

ประเภทเครื่องมือ เลเวอเรจสูงสุด มาร์จิ้นขั้นต่ำ
คู่สกุลเงินหลัก 1:200 0.50%
คู่สกุลเงินรอง 1:200 0.50%
ดัชนีหุ้น 1:200 0.50%
สินค้าโภคภัณฑ์ 1:100 1.00%
หุ้นรายตัว 1:25 4.00%

การตั้งค่าเลเวอเรจในแพลตฟอร์ม MT4

ขั้นตอนการเข้าถึงการตั้งค่าเลเวอเรจ

เข้าสู่ระบบ MetaTrader 4 ด้วยข้อมูลบัญชีที่ได้รับจากเรา คลิกที่เมนู "Tools" และเลือก "Options" เพื่อเข้าถึงหน้าต่างการตั้งค่า ในแท็บ "Trade" คุณจะพบตัวเลือกสำหรับการจัดการเลเวอเรจและมาร์จิ้น

ระบบจะแสดงเลเวอเรจปัจจุบันของบัญชีในส่วน "Account Information" ที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ หากต้องการเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจ คุณต้องส่งคำขอผ่านระบบ FxPro Client Portal หรือติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าโดยตรง

การเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจจะมีผลทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติ ระบบจะส่งอีเมลยืนยันและอัปเดตข้อมูลในแพลตฟอร์มการเทรดโดยอัตโนมัติ

การคำนวณมาร์จิ้นและ Stop Out

ระบบคำนวณมาร์จิ้นที่ต้องใช้โดยใช้สูตร: ขนาดโพซิชั่น × ราคาปัจจุบัน ÷ เลเวอเรจ ตัวอย่างเช่น การเปิดโพซิชั่น EUR/USD ขนาด 1 ล็อต (100,000 หน่วย) ด้วยเลเวอเรจ 1:100 ที่ราคา 1.2000 จะใช้มาร์จิ้น 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ

Free Margin คือจำนวนเงินที่เหลือสำหรับเปิดโพซิชั่นใหม่ ระบบคำนวณโดยการนำ Equity ลบด้วย Used Margin หาก Free Margin เป็นศูนย์หรือติดลบ คุณจะไม่สามารถเปิดโพซิชั่นใหม่ได้

Margin Level คำนวณจากสูตร: (Equity ÷ Used Margin) × 100 เมื่อ Margin Level ลดลงถึงระดับ 50% (Stop Out Level) ระบบจะเริ่มปิดโพซิชั่นที่ขาดทุนมากที่สุดโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการขาดทุนเกินเงินฝาก

การจัดการความเสี่ยงด้วยเลเวอเรจ FxPro

การใช้เลเวอเรจอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เราแนะนำให้ใช้กฎ 2% ซึ่งหมายความว่าไม่ควรเสี่ยงเงินทุนเกิน 2% ของบัญชีในการเทรดครั้งเดียว การคำนวณขนาดโพซิชั่นควรพิจารณาจาก Stop Loss ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ระบบ Risk Management ของเราช่วยคำนวณขนาดโพซิชั่นที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณกำหนด Stop Loss และเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ระบบจะแสดงขนาดล็อตที่แนะนำทันที

การใช้ Trailing Stop ร่วมกับเลเวอเรจจะช่วยล็อกกำไรและลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบจะปรับ Stop Loss โดยอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นประโยชน์ การตั้งค่า Trailing Stop สามารถทำได้ผ่านการคลิกขวาที่โพซิชั่นและเลือก "Trailing Stop"

เครื่องมือ Risk Calculator ที่เราพัฒนาขึ้นช่วยให้นักเทรดสามารถคำนวณความเสี่ยงล่วงหน้าก่อนเปิดโพซิชั่น เครื่องมือนี้รองรับการคำนวณสำหรับเครื่องมือการเทรดทุกประเภทและแสดงผลเป็นสกุลเงินบาทไทย

  • ใช้ Stop Loss ทุกการเทรดเพื่อจำกัดการขาดทุน
  • กำหนดเป้าหมายกำไรที่สมเหตุสมผลด้วย Take Profit
  • หลีกเลี่ยงการเปิดโพซิชั่นหลายตำแหน่งในทิศทางเดียวกัน
  • ติดตาม Economic Calendar เพื่อหลีกเลี่ยงข่าวสำคัญ
  • ใช้ Position Size Calculator ก่อนเปิดโพซิชั่นทุกครั้ง

การเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมสำหรับนักเทรดไทย

การวิเคราะห์ประเภทนักเทรด

นักเทรดมือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:20 เพื่อเรียนรู้การจัดการความเสี่ยงและทำความเข้าใจกลไกของตลาด การใช้เลเวอเรจสูงในช่วงแรกอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนที่รุนแรงและสูญเสียความมั่นใจในการเทรด

นักเทรดที่มีประสบการณ์ปานกลางสามารถใช้เลเวอเรจ 1:50 ถึง 1:100 โดยต้องมีระบบการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน การใช้เลเวอเรจในระดับนี้ต้องอาศัยความเข้าใจในการวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐานอย่างลึกซึ้ง

นักเทรดมืออาชีพอาจใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:200 แต่จะใช้เฉพาะกับกลยุทธ์ที่มีความแม่นยำสูงและระบบการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด การใช้เลเวอเรจสูงต้องมีทักษะในการอ่านตลาดและการตัดสินใจที่รวดเร็ว

การปรับเลเวอเรจตามสภาวะตลาด

ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ เราแนะนำให้ลดเลเวอเรจลงเพื่อควบคุมความเสี่ยง ระบบของเราจะส่งการแจ้งเตือนเมื่อมีข่าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาด

การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดเงียบสงบสามารถใช้เลเวอเรจที่สูงขึ้นได้ แต่ต้องระวังการเกิด Gap ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตลาดเปิดใหม่ ระบบจะแสดงสถานะตลาดและระดับความผันผวนแบบเรียลไทม์

ช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง เช่น London Session และ New York Session จะเหมาะสำหรับการใช้เลเวอเรจที่สูงกว่าช่วงเวลาที่ตลาดเงียบ การเลือกเวลาเทรดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเลเวอเรจ

เครื่องมือสนับสนุนการใช้เลเวอเรจ

เราพัฒนาเครื่องมือ Margin Calculator ที่ช่วยคำนวณมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับแต่ละการเทรด เครื่องมือนี้รองรับการคำนวณสำหรับเครื่องมือการเทรดกว่า 70 ประเภท และแสดงผลเป็นสกุลเงินบาทไทยเพื่อความสะดวกของนักเทรดไทย

ระบบ Risk Monitor แสดงข้อมูลความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ รวมถึง Margin Level, Free Margin และ Equity ที่อัปเดตทุกวินาที การติดตามข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที

เครื่องมือ Position Size Calculator ช่วยกำหนดขนาดโพซิชั่นที่เหมาะสมตามระดับความเสี่ยงที่ต้องการ เพียงกรอกข้อมูล Stop Loss และเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง ระบบจะแสดงขนาดล็อตที่แนะนำทันที

เครื่องมือ ฟังก์ชัน การใช้งาน
Margin Calculator คำนวณมาร์จิ้น ก่อนเปิดโพซิชั่น
Risk Monitor ติดตามความเสี่ยง ระหว่างการเทรด
Position Size Calculator กำหนดขนาดโพซิชั่น วางแผนการเทรด
Economic Calendar ข่าวเศรษฐกิจ หลีกเลี่ยงความผันผวน
Volatility Indicator ระดับความผันผวน ปรับกลยุทธ์

การตั้งค่าเลเวอเรจใน MT5 และ cTrader

ขั้นตอนการตั้งค่าใน MetaTrader 5

เปิดแพลตฟอร์ม MT5 และเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลบัญชีจริง คลิกที่ "Navigator" และเลือก "Accounts" เพื่อดูรายละเอียดบัญชี ข้อมูลเลเวอเรจปัจจุบันจะแสดงในส่วน "Account Information"

การเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจใน MT5 ต้องทำผ่าน Client Portal ของเรา เข้าสู่ระบบที่ portal.fxpro.com และไปที่ส่วน "Account Settings" เลือกบัญชีที่ต้องการปรับเปลี่ยนและคลิก "Change Leverage"

ระบบจะแสดงตัวเลือกเลเวอเรจที่ใช้ได้สำหรับประเภทบัญชีของคุณ เลือกเลเวอเรจที่ต้องการและยืนยันการเปลี่ยนแปลง การอัปเดตจะมีผลภายใน 5 นาที

การใช้งานเลเวอเรจใน cTrader

แพลตฟอร์ม cTrader แสดงข้อมูลเลเวอเรจในแผง "Account" ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ ข้อมูลจะรวมถึง Leverage, Margin Used, Free Margin และ Margin Level ที่อัปเดตแบบเรียลไทม์

การคำนวณมาร์จิ้นใน cTrader ใช้ระบบที่แม่นยำกว่า MT4/MT5 โดยพิจารณาจากราคา Bid และ Ask ที่แท้จริง ระบบจะแสดงมาร์จิ้นที่ต้องใช้ก่อนเปิดโพซิชั่นในหน้าต่าง Order Entry

เครื่องมือ Risk Management ใน cTrader ช่วยคำนวณขนาดโพซิชั่นโดยอัตโนมัติเมื่อคุณกำหนด Stop Loss และเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยง ระบบจะปรับขนาดล็อตให้เหมาะสมกับเลเวอเรจที่ใช้

กลยุทธ์การเทรดด้วยเลเวอเรจ FxPro

การใช้ เลเวอเรจ FxPro อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยกลยุทธ์ที่เหมาะสม กลยุทธ์ Scalping เหมาะสำหรับการใช้เลเวอเรจสูง เนื่องจากมีการถือโพซิชั่นระยะสั้นและมีการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด เราแนะนำให้ใช้เลเวอเรจ 1:100 ถึง 1:200 สำหรับกลยุทธ์นี้

กลยุทธ์ Day Trading ควรใช้เลเวอเรจปานกลาง ประมาณ 1:50 ถึง 1:100 เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการโพซิชั่นตลอดวัน การใช้เลเวอเรจในระดับนี้จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนโดยไม่เสี่ยงต่อการ Margin Call

กลยุทธ์ Swing Trading เหมาะสำหรับเลเวอเรจต่ำ เช่น 1:10 ถึง 1:30 เนื่องจากมีการถือโพซิชั่นหลายวันและต้องรับมือกับความผันผวนที่สูงขึ้น การใช้เลเวอเรจต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงจาก Gap และข่าวที่เกิดขึ้นข้ามคืน

  • เลือกเลเวอเรจให้เหมาะสมกับ Time Frame ที่ใช้
  • ใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมกับความผันผวนของตลาด
  • ปรับขนาดโพซิชั่นตามสภาวะตลาด
  • หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินจำเป็น

❓ FAQ

เลเวอเรจคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร?

เลเวอเรจคือเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมโพซิชั่นที่มีมูลค่าเกินกว่าทุนที่มีอยู่จริง ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรแต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วย

จะตั้งค่าเลเวอเรจบน MT4 ได้อย่างไร?

เข้าสู่ระบบ MT4 แล้วไปที่เมนู Tools > Options > Trade เพื่อดูข้อมูลเลเวอเรจ หากต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องส่งคำขอผ่าน Client Portal หรือติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้า

ควรใช้เลเวอเรจระดับใดสำหรับนักเทรดมือใหม่?

นักเทรดมือใหม่ควรใช้เลเวอเรจต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:20 เพื่อเรียนรู้และจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

ระดับ Stop Out ของ FxPro คือเท่าไหร่?

ระดับ Stop Out ของ FxPro คือ 50% ซึ่งหมายความว่าระบบจะเริ่มปิดโพซิชั่นเมื่อระดับมาร์จิ้นของคุณลดลงถึง 50%