Home » FxPro ประเภทบัญชี Thailand
FxPro ประเภทบัญชี: ค้นหาบัญชีเทรดที่เหมาะกับคุณ
ฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนี และอื่น ๆ อีกมากมาย
ได้รับการควบคุมโดย FCA, CySEC, FSCA และ SCB
การป้องกันยอดคงเหลือติดลบสำหรับลูกค้าทุกคน
ทันที โดยไม่มีการแทรกแซงจากตัวกลาง
🔑 ประเด็นสำคัญ
- FxPro ได้ปรับปรุงโครงสร้าง FxPro ประเภทบัญชี ใหม่เป็น 4 ประเภทหลัก: Standard, Pro, Raw+ และ Elite เพื่อให้เหมาะกับทุกระดับของนักเทรด
- ความแตกต่างหลักของแต่ละ FxPro Account Type อยู่ที่โครงสร้างสเปรดและค่าคอมมิชชั่น ตั้งแต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นไปจนถึงสเปรดดิบพร้อมค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ
- นักเทรดสามารถเลือกใช้บัญชีเหล่านี้บนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง MT4, MT5 และ cTrader ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีเครื่องมือและฟังก์ชันที่เป็นเอกลักษณ์
📋 สารบัญ
- ภาพรวม FxPro ประเภทบัญชี: Standard, Pro, Raw+ และ Elite
- บัญชี FxPro Standard: จุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ
- บัญชี FxPro Pro: สำหรับนักเทรดขั้นสูง
- บัญชี FxPro Raw+: ประสบการณ์เทรดแบบสเปรดดิบ
- บัญชี FxPro Elite: สิทธิพิเศษสำหรับนักเทรดปริมาณสูง
- การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่: MT4, MT5, cTrader และ FxPro Edge
- วิธีเปิดบัญชี FxPro ในประเทศไทย
- การจัดการบัญชี, การฝาก-ถอนเงิน
ภาพรวม FxPro ประเภทบัญชี: Standard, Pro, Raw+ และ Elite
ที่ FxPro เราเข้าใจดีว่านักเทรดแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ปรับปรุงโครงสร้าง ประเภทบัญชี FxPro เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกและตอบโจทย์ทุกสไตล์การเทรด ปัจจุบัน บัญชีของเราแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ Standard, Pro, Raw+, และ Elite โดยแต่ละประเภทจะกำหนดเงื่อนไขการเทรด เช่น สเปรดและค่าคอมมิชชั่น ในขณะที่แพลตฟอร์ม (MT4, MT5, cTrader) คือเครื่องมือที่คุณใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขาย การทำความเข้าใจใน FxPro Account Comparison และ การเปรียบเทียบบัญชีของ FxPro นี้จะช่วยให้คุณเลือกบัญชีที่เหมาะสมที่สุด
การเลือก ประเภทบัญชี ที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักเทรดมืออาชีพที่มองหาต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุด เรามี FxPro Types of Accounts ที่พร้อมสนับสนุนเป้าหมายของคุณ
คุณสมบัติ | Standard | Pro | Raw+ | Elite |
---|---|---|---|---|
เหมาะสำหรับ | นักเทรดมือใหม่ | นักเทรดขั้นสูง, Algo Traders | Scalpers, Day Traders | นักเทรดปริมาณสูง, VIP |
สเปรด | ต่ำ, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น | ต่ำมาก, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น | สเปรดดิบ (Raw) | สเปรดดิบ + ส่วนลด |
ค่าคอมมิชชั่น | ไม่มี | ไม่มี | $3.5 ต่อ lot ต่อข้าง | $3.5 ต่อ lot + รับเงินคืน |
แพลตฟอร์ม | MT4, MT5 | MT4, MT5 | MT4, MT5, cTrader | MT4, MT5, cTrader |
บัญชี FxPro Standard: จุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ
บัญชี Standard ถูกออกแบบมาเพื่อนักเทรดมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการเทรด จุดเด่นที่สุดของบัญชีประเภทนี้คือ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ในการซื้อขาย ทำให้การคำนวณต้นทุนและกำไรเป็นเรื่องง่าย ต้นทุนทั้งหมดจะถูกรวมอยู่ในสเปรด ซึ่งยังคงแข่งขันได้ในตลาด บัญชีนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นเส้นทางเทรดและทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5
ด้วยความเรียบง่ายนี้ นักเทรดสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนากลยุทธ์และการวิเคราะห์ตลาด โดยใช้เครื่องมือพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคที่มีอยู่อย่างครบครันในแพลตฟอร์ม MetaTrader
บัญชี FxPro Pro: สำหรับนักเทรดขั้นสูง
บัญชี Pro เป็นขั้นกว่าสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ หรือผู้ที่ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ (Algo Trading) บัญชีนี้ยังคง ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ สเปรดที่แคบกว่า บัญชี Standard อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหมายถึงต้นทุนการเทรดที่ต่ำลง เหมาะสำหรับนักเทรดที่เข้าออกตลาดบ่อยครั้งและต้องการสภาพแวดล้อมการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูง
บัญชี Pro เป็นตัวเลือกที่สมดุลระหว่างต้นทุนที่ต่ำและความเรียบง่ายในการใช้งาน โดยมักจะถูกเลือกใช้บนแพลตฟอร์ม MT5 เพื่อเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์และประเภทคำสั่งที่หลากหลายกว่า
บัญชี FxPro Raw+: ประสบการณ์เทรดแบบสเปรดดิบ
บัญชี Raw+ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บัญชี Raw ของ FxPro (FxPro Raw Account) คือคำตอบสำหรับนักเทรดมืออาชีพ, Scalpers และ Day Traders ที่ต้องการต้นทุนการเทรดที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บัญชีนี้ให้คุณเข้าถึง สเปรดดิบ (Raw Spread) จากผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง ซึ่งหมายความว่าสเปรดอาจแคบจนเกือบเป็นศูนย์สำหรับคู่เงินหลักในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ บัญชี Zero Spread ของ FxPro หรือ FxPro Zero Spread Account
โมเดลของบัญชีนี้คือการคิดค่าคอมมิชชั่นคงที่ในอัตราที่แข่งขันได้ คือ $3.5 ต่อการเทรด 1 lot ต่อข้าง (รวมเป็น $7 ต่อการเทรดครบรอบ) บัญชีประเภทนี้มักถูกใช้งานบนแพลตฟอร์ม cTrader เพื่อใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Depth of Market (DOM) และการส่งคำสั่งที่รวดเร็วเป็นพิเศษ
บัญชี FxPro Elite: สิทธิพิเศษสำหรับนักเทรดปริมาณสูง
บัญชี Elite หรือที่เรียกว่า บัญชี Professional ของ FxPro (FxPro Professional Account) ถูกสร้างขึ้นสำหรับนักเทรดรายใหญ่และลูกค้า VIP ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง บัญชีนี้มอบเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดของ FxPro โดยเป็นการรวมข้อดีของบัญชี Raw+ เข้ากับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
ผู้ถือบัญชี Elite จะได้รับสเปรดดิบและจ่ายค่าคอมมิชชั่นเช่นเดียวกับบัญชี Raw+ แต่จะได้รับ เงินคืน (Rebates) จากค่าคอมมิชชั่น สูงสุดถึง 21% ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเทรดลงไปอีก นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น บริการ VPS ฟรีสำหรับการเทรดอัตโนมัติ และผู้จัดการบัญชีส่วนตัวคอยให้ความช่วยเหลือ บัญชีนี้ต้องการเงินฝากเริ่มต้นในระดับสูงเพื่อปลดล็อกสิทธิประโยชน์ทั้งหมด
การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่: MT4, MT5, cTrader และ FxPro Edge
หลังจากเลือก ประเภทบัญชีของ FxPro ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกแพลตฟอร์มที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเทรด ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นแตกต่างกัน
MetaTrader 4 (MT4)
แพลตฟอร์มยอดนิยมตลอดกาล มีความเสถียรสูงและเป็นที่รู้จักกันดีในวงการ มี Expert Advisors (EA) และอินดิเคเตอร์ที่กำหนดเองให้เลือกใช้หลายพันตัว เหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นการเทรด Forex และต้องการใช้ระบบเทรดอัตโนมัติที่ผ่านการทดสอบมาอย่างยาวนาน
MetaTrader 5 (MT5)
เวอร์ชันอัปเกรดของ MT4 ที่มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์มากกว่า 80 ชนิด, Time Frames 21 รูปแบบ, และรองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภทกว่า เช่น หุ้นและ Futures มีประเภทคำสั่ง Pending Order ถึง 6 ประเภท ทำให้วางแผนการเทรดได้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
cTrader
ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมการเทรดแบบ ECN โดยเฉพาะ มีอินเทอร์เฟซที่ทันสมัยและใช้งานง่าย โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Level II Pricing (Depth of Market) ที่แสดงสภาพคล่องของตลาดอย่างโปร่งใส และระบบ cBot สำหรับการสร้าง EA ด้วยภาษา C# เหมาะสำหรับบัญชี Raw+
FxPro Edge
แพลตฟอร์มที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ FxPro ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องติดตั้ง มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและเน้นการเทรดด้วยสเปรดที่แข่งขันได้ เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการจัดการบัญชีและโพซิชั่น
วิธีเปิดบัญชี FxPro ในประเทศไทย
การเปิดบัญชีกับเราเป็นกระบวนการที่ง่ายและรวดเร็ว เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของ FxPro และคลิก "เปิดบัญชี" กรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ครบถ้วน จากนั้นระบบจะนำคุณไปสู่ขั้นตอนการเลือก FxPro ประเภทบัญชี (Standard, Pro, Raw+, หรือ Elite) และแพลตฟอร์มที่คุณต้องการใช้
ขั้นตอนสุดท้ายคือการยืนยันตัวตน (KYC) โดยการอัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง) และเอกสารยืนยันที่อยู่ (ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค) ที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน หลังจากอนุมัติ คุณก็พร้อมที่จะฝากเงินและเริ่มต้นเทรดได้ทันที
การจัดการบัญชี, การฝาก-ถอนเงิน
นักเทรดสามารถจัดการทุก FxPro Account Types ของตนเองได้ผ่าน FxPro Direct Portal ที่เป็นศูนย์กลางส่วนตัวของคุณ ที่นี่คุณสามารถตรวจสอบยอดเงิน, ดูประวัติการเทรด, และทำการฝาก-ถอนเงินได้อย่างสะดวกและปลอดภัย เรามีช่องทางการฝากเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับนักเทรดชาวไทย ทั้งการโอนผ่านธนาคารในประเทศ, บัตรเครดิต/เดบิต, และ E-Wallet ชั้นนำอย่าง Skrill และ Neteller โดยมีเงินฝากขั้นต่ำที่แนะนำเริ่มต้นเพียง $100
❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
FxPro มีประเภทบัญชีหลักๆ อะไรบ้าง?
FxPro มี 4 ประเภทบัญชีหลัก ได้แก่ Standard (ไม่มีค่าคอมมิชชั่น), Pro (สเปรดแคบลง, ไม่มีค่าคอมมิชชั่น), Raw+ (สเปรดดิบ + ค่าคอมมิชชั่น), และ Elite (เหมือน Raw+ พร้อมรับเงินคืน)
บัญชี Standard กับ Raw+ ต่างกันอย่างไร?
บัญชี Standard ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่สเปรดจะกว้างกว่า ในขณะที่บัญชี Raw+ มีสเปรดที่แคบมาก (สเปรดดิบ) แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด เหมาะกับสไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน
ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มไหนดี?
เลือก MT4 หากคุณต้องการความเสถียรและมี EA ให้เลือกใช้เยอะ, เลือก MT5 หากต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัยกว่า, และเลือก cTrader หากคุณใช้บัญชี Raw+ และต้องการดูสภาพคล่องของตลาด
เลเวอเรจสูงสุดที่ FxPro ให้บริการคือเท่าไหร่?
เลเวอเรจสูงสุดจะขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของหน่วยงานที่กำกับดูแลในประเทศของคุณ และสถานะบัญชีของคุณว่าเป็นลูกค้ารายย่อยหรือลูกค้ามืออาชีพ